วิธีการจับคู่เลขมงคลภายในเบอร์โทรศัพท์ของเรา
หลังจากที่เราได้รู้จักศาสตร์ของตัวเลขไปในเบื้องต้นแล้ว
ต่อไปเราจะมาดูกันดีกว่าว่าการเลือกเบอร์มงคล เค้ามีวิธีการเลือกกันยังไง
แล้วเบอร์โทรศัพท์ที่เราใช้อยู่นั้นเป็นเบอร์ดีหรือเบอร์เสีย สำหรับวิธีการดูเลขมงคลในเบอร์มือถือนั้นจะมีขั้นตอนการพิจารณาอยู่ด้วยกันในหลาย
ๆด้านด้วยกันนะคะ แบ่งเป็นข้อ ๆได้ดังนี้
๑.
คู่เลขในเบอร์นั้นจะต้องมีความเหมาะสมกับตัวตนของเรา ทั้งในเรื่องลักษณะนิสัยใจคอ
อาชีพ และความต้องการที่อยากให้เบอร์มงคลนั้นสนับสนุนเรา เพราะถึงจะได้เบอร์ที่ดีมากมาครอบครองแต่ถ้าหากไม่เหมาะสมกับตัวเราแล้วละก็
เบอร์นั้นก็จะไม่สามารถสนับสนุนเราได้ดีเท่าที่ควร เช่น
เราทำงานที่ต้องเจรจาค้าขาย แต่ไปได้เบอร์ที่มีเลขราชการมาครอบครอง เป็นต้น
๒.เบอร์มงคลที่ดีต้องมีคู่เลขภายในที่ดี ไม่ใช่เฉพาะผลรวมเลขเบอร์ที่ดี นั่นก็เพราะว่าผลรวมเบอร์เป็นข้อมูลแบบวงกว้าง คล้าย ๆกับการทำนายดวงชะตาแบบราศี คนเกิดราศีเดียวกันก็ใช่ว่าจะมีดวงชะตาที่เหมือนกันเสียทุกคน ดังนั้นจึงเป็นเหตุผลที่เราต้องพิจารณาเบอร์มงคลจากคู่เลขทุก ๆคู่ภายในเบอร์โทรนั้น ๆ
๓.การดูเลขมงคลจะดูเป็นคู่เลขที่อยู่ในเบอร์โทรศัพท์ของเรา เช่น เบอร์โทร ๐๙๕-๑๔๕๖๕๖๑ โดยเราจะพิจารณาจากเลข ๘ ตัวหลังเป็นหลัก และคู่เลขทุกคู่จะต้องเป็นเลขมงคลทั้งหมด หากมีเลขเสียเพียงแค่คู่เดียวเบอร์นั้นก็จะไม่ถือว่าเป็นเบอร์มงคล
เลข ๘ ตัวหลังในเบอร์โทรศัพท์ของเรานั้น จะสามารถนำมาจับได้เป็น ๗ คู่เลข เช่น ถ้าเบอร์โทรศัพท์ของเราคือ ๐๙๕-๑๔๕๖๕๖๑ ก็สามารถจับเป็นคู่เลขได้ดังนี้ ๕๑ ๑๔ ๔๕ ๕๖ ๖๕ ๕๖ และ ๖๑ ซึ่งเราจะนำเลขแต่ละคู่มาพิจารณาวิเคราะห์ความหมาย เพื่อหาว่าเบอร์นั้นเป็นเบอร์มงคลหรือไม่ หรือมีเลขคู่เสียหรือเปล่า โดยเฉพาะอย่างยิ่งนอกจากเลขในเบอร์โทรทุกคู่จะต้องเป็นคู่ที่ดีแล้วนั้น ตำแหน่งของเลขทั้ง ๗ คู่ ก็จะมีผลลัพธ์ที่ส่งผลต่อดวงชะตาของผู้ใช้ต่างกันเช่นกัน
- คู่เลข ๓ คู่แรก จะบ่งบอกถึงบุคลิกตัวตนที่แสดงออกมาภายนอกเจ้าของเบอร์นั้น
- คู่เลขลำดับที่ ๔ – ๕ นั้นจะบ่งบอกถึงตัวตนภายใน นิสัยใจคอ สติปัญญารวมไปถึงพรสวรรค์ของเรา ตั้งแต่อดีตจนถึงแนวโน้มอนาคตของเราด้วย
- คู่เลข ๒ คู่สุดท้ายเป็นคู่เลขที่มีความสำคัญมากสุด เป็นคู่เลขที่จะบ่งบอกถึงจิตใจและความสำเร็จในอนาคต ดังนั้นเลขลงท้ายของเบอร์โทรจึงควรเน้นให้เป็นเลขทรัพย์สิน เลขสติปัญญา จึงจะยิ่งดี
เลขที่ดีและสามารถใช้ในเบอร์มงคลได้เลยประกอบไปด้วยเลข 14 15 16 19 22 24 26 28 29 35 36 39 41 42 44 45 46 49 51 53 54 55 56 59 61 62 63 64 65 66 69 78 79 82 87 89 91 92 93 94 95 96 97 98 99
ส่วนเลข 17 23 25 32 47 52 71 74 และเลข 88 เป็นกลุ่มเลขที่จะต้องใช้ความระมัดระวังในการเลือกใช้ การจะเลือกใช้จะต้องเลือกใช้ให้เหมาะสมกับบุคลิกและอาชีพแต่ละคนเป็นหลัก
อย่างไรก็ตามเลขที่ไม่ได้กล่าวถึงข้างต้นทั้งหมดนั้น เป็นเลขเสียที่ไม่เหมาะจะอยู่ในเบอร์โทรทั้งสิ้น แต่อย่างไรก็ตามในการเลือกเลขในเบอร์โทรนั้น เลขบางเลขเป็นเลขที่ดีแต่หากมีหลายๆคู่เกินไปในเบอร์เดียวก็ไม่ดีนะคะ อันนี้เราอยากให้เพื่อน ๆระวังกันนิดนึง อย่างเช่นเลข 26 เป็นเลขที่เด่นในด้านเสน่ห์และการเจรจา เราจะเป็นที่รักใคร่ต่อผู้พบเห็น แต่ก็มีข้อเสียในเรื่องความโลเล และอาจจะมีเรื่องรักซ้อนซ่อนเงื่อนได้ง่าย ถ้าไปได้เบอร์ที่ มีเลข 262 ปนอยู่ในเบอร์โทรเช่นนี้ เทื่อนำมาจับเป็นคู่เลขเลขสามารถจับได้ทั้ง 62 และ 26 ซึ่งถือว่าเป็นเลขมงคลด้านความรัก เรียกเสน่ห์ เมตตามหานิยมก็จริง แต่ก็ต้องพึงระวังในด้านเสียของเค้าเหมือนกัน ถ้าเดิมทีเราเป็นคนรักง่ายหน่ายเร็วอยู่แล้ว เราก็อาจจะมีการเปลี่ยนคนรักบ่อย มีคนผ่านมาผ่านไปในชีวิต ไม่มีความจริงจังยั่งยืนในชีวิตคู่ได้เช่นกัน เพราะฉะนั้นถ้าหากมีคู่เลขซ้ำก็ควรเป็นคู่เลขที่มีผลเสียน้อย เพื่อให้ด้านเสียของคู่เลขส่งผลน้อยที่สุด
๒.เบอร์มงคลที่ดีต้องมีคู่เลขภายในที่ดี ไม่ใช่เฉพาะผลรวมเลขเบอร์ที่ดี นั่นก็เพราะว่าผลรวมเบอร์เป็นข้อมูลแบบวงกว้าง คล้าย ๆกับการทำนายดวงชะตาแบบราศี คนเกิดราศีเดียวกันก็ใช่ว่าจะมีดวงชะตาที่เหมือนกันเสียทุกคน ดังนั้นจึงเป็นเหตุผลที่เราต้องพิจารณาเบอร์มงคลจากคู่เลขทุก ๆคู่ภายในเบอร์โทรนั้น ๆ
๓.การดูเลขมงคลจะดูเป็นคู่เลขที่อยู่ในเบอร์โทรศัพท์ของเรา เช่น เบอร์โทร ๐๙๕-๑๔๕๖๕๖๑ โดยเราจะพิจารณาจากเลข ๘ ตัวหลังเป็นหลัก และคู่เลขทุกคู่จะต้องเป็นเลขมงคลทั้งหมด หากมีเลขเสียเพียงแค่คู่เดียวเบอร์นั้นก็จะไม่ถือว่าเป็นเบอร์มงคล
เลข ๘ ตัวหลังในเบอร์โทรศัพท์ของเรานั้น จะสามารถนำมาจับได้เป็น ๗ คู่เลข เช่น ถ้าเบอร์โทรศัพท์ของเราคือ ๐๙๕-๑๔๕๖๕๖๑ ก็สามารถจับเป็นคู่เลขได้ดังนี้ ๕๑ ๑๔ ๔๕ ๕๖ ๖๕ ๕๖ และ ๖๑ ซึ่งเราจะนำเลขแต่ละคู่มาพิจารณาวิเคราะห์ความหมาย เพื่อหาว่าเบอร์นั้นเป็นเบอร์มงคลหรือไม่ หรือมีเลขคู่เสียหรือเปล่า โดยเฉพาะอย่างยิ่งนอกจากเลขในเบอร์โทรทุกคู่จะต้องเป็นคู่ที่ดีแล้วนั้น ตำแหน่งของเลขทั้ง ๗ คู่ ก็จะมีผลลัพธ์ที่ส่งผลต่อดวงชะตาของผู้ใช้ต่างกันเช่นกัน
- คู่เลข ๓ คู่แรก จะบ่งบอกถึงบุคลิกตัวตนที่แสดงออกมาภายนอกเจ้าของเบอร์นั้น
- คู่เลขลำดับที่ ๔ – ๕ นั้นจะบ่งบอกถึงตัวตนภายใน นิสัยใจคอ สติปัญญารวมไปถึงพรสวรรค์ของเรา ตั้งแต่อดีตจนถึงแนวโน้มอนาคตของเราด้วย
- คู่เลข ๒ คู่สุดท้ายเป็นคู่เลขที่มีความสำคัญมากสุด เป็นคู่เลขที่จะบ่งบอกถึงจิตใจและความสำเร็จในอนาคต ดังนั้นเลขลงท้ายของเบอร์โทรจึงควรเน้นให้เป็นเลขทรัพย์สิน เลขสติปัญญา จึงจะยิ่งดี
เลขที่ดีและสามารถใช้ในเบอร์มงคลได้เลยประกอบไปด้วยเลข 14 15 16 19 22 24 26 28 29 35 36 39 41 42 44 45 46 49 51 53 54 55 56 59 61 62 63 64 65 66 69 78 79 82 87 89 91 92 93 94 95 96 97 98 99
ส่วนเลข 17 23 25 32 47 52 71 74 และเลข 88 เป็นกลุ่มเลขที่จะต้องใช้ความระมัดระวังในการเลือกใช้ การจะเลือกใช้จะต้องเลือกใช้ให้เหมาะสมกับบุคลิกและอาชีพแต่ละคนเป็นหลัก
อย่างไรก็ตามเลขที่ไม่ได้กล่าวถึงข้างต้นทั้งหมดนั้น เป็นเลขเสียที่ไม่เหมาะจะอยู่ในเบอร์โทรทั้งสิ้น แต่อย่างไรก็ตามในการเลือกเลขในเบอร์โทรนั้น เลขบางเลขเป็นเลขที่ดีแต่หากมีหลายๆคู่เกินไปในเบอร์เดียวก็ไม่ดีนะคะ อันนี้เราอยากให้เพื่อน ๆระวังกันนิดนึง อย่างเช่นเลข 26 เป็นเลขที่เด่นในด้านเสน่ห์และการเจรจา เราจะเป็นที่รักใคร่ต่อผู้พบเห็น แต่ก็มีข้อเสียในเรื่องความโลเล และอาจจะมีเรื่องรักซ้อนซ่อนเงื่อนได้ง่าย ถ้าไปได้เบอร์ที่ มีเลข 262 ปนอยู่ในเบอร์โทรเช่นนี้ เทื่อนำมาจับเป็นคู่เลขเลขสามารถจับได้ทั้ง 62 และ 26 ซึ่งถือว่าเป็นเลขมงคลด้านความรัก เรียกเสน่ห์ เมตตามหานิยมก็จริง แต่ก็ต้องพึงระวังในด้านเสียของเค้าเหมือนกัน ถ้าเดิมทีเราเป็นคนรักง่ายหน่ายเร็วอยู่แล้ว เราก็อาจจะมีการเปลี่ยนคนรักบ่อย มีคนผ่านมาผ่านไปในชีวิต ไม่มีความจริงจังยั่งยืนในชีวิตคู่ได้เช่นกัน เพราะฉะนั้นถ้าหากมีคู่เลขซ้ำก็ควรเป็นคู่เลขที่มีผลเสียน้อย เพื่อให้ด้านเสียของคู่เลขส่งผลน้อยที่สุด
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น